อายัดบัญชี กลายเป็นคำที่คนไทยได้ยินบ่อยขึ้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากมาตรการอันเข้มงวดของธนาคารและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ตั้งใจสกัดเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า แต่ปัญหาที่ตามมา กลับเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนทั่วไป ที่พบว่าบัญชีของตัวเองถูกระงับการใช้งาน ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดแต่อย่างใด ทำให้หลายคนไม่สามารถใช้ Mobile Banking ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
SCNews รวบรวมข้อเท็จจริง ข้อมูลทางกฎหมาย และเสียงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นนี้ครบทุกมิติ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของระบบการเงินไทย ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กับการคุ้มครองสิทธิและทรัพย์สินของประชาชน การที่ประชาชนทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการอายัดบัญชี ไปจนถึงขั้นตอนที่ควรปฏิบัติ และสิทธิที่ผู้ใช้บริการพึงได้รับ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมได้มากขึ้น
อายัดบัญชี คืออะไร
การอายัดบัญชี หมายถึงการที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ออกคำสั่งให้ระงับธุรกรรมการเงินของบัญชีหนึ่ง ๆ ชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เงินที่อาจเกี่ยวข้องกับความผิดทางกฎหมาย ถูกโอนย้ายหรือหายไป โดยทั่วไปแล้ว จะอ้างอิงจากคำสั่งศาล หรือคำสั่งของพนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น ปปง. หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่ผ่านมา มาตรการนี้ถูกนำมาใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจำนวนคดี อาชญากรรมออนไลน์พุ่งสูงกว่า 200,000 คดีในรอบปีที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายกว่า 31,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารและตำรวจ จำเป็นต้องใช้มาตรการเชิงรุกในการสกัดเส้นทางการเงิน แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นที่มาของเสียงวิจารณ์ในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไป
เหตุผลที่ บัญชีถูกอายัด
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้บัญชีถูกอายัด ได้แก่
- อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่
- เงินในบัญชี ถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
- คดีแพ่ง เช่น หนี้สิน การฟ้องร้อง หรือการหย่าร้าง
- การมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “บัญชีม้า” ที่ถูกใช้รับ-โอนเงินผิดกฎหมาย
ปราบบัญชีม้า แต่กลับส่งผลกระทบผู้ใช้ทั่วไป
เป้าหมายหลักของมาตรการอายัดบัญชีคือ การสกัด “บัญชีม้า” ซึ่งเป็นช่องทางหลักของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเครือข่ายฟอกเงิน แต่เมื่อธนาคารใช้มาตรการ “หว่านแห” ตรวจสอบบัญชีที่มีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น รับโอนเงินจำนวนมากจากหลายบัญชี หรือมีธุรกรรมที่เข้าข่ายเสี่ยง ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบ จนบัญชีถูกอายัดไปด้วย
ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ ประชาชนไม่สามารถใช้ Mobile Banking ได้ตามปกติ บางรายไม่สามารถเบิกเงินสดหรือชำระค่าครองชีพ ทำให้เกิดความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง กรณีเหล่านี้ จึงสร้างแรงกดดันให้หน่วยงานรัฐและธนาคาร ต้องปรับปรุงระบบตรวจสอบ เพื่อไม่ให้มาตรการที่ตั้งใจดี กลายเป็นภาระที่สร้างปัญหาใหม่
วิธีดำเนินการ เมื่อ บัญชีถูกอายัด
หากพบว่าบัญชีถูกอายัด ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ประชาชนสามารถดำเนินการได้ ดังนี้
- ติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบสาเหตุของการอายัด
- รวบรวมเอกสารธุรกรรมและหลักฐานการโอนเงิน
- แจ้งความที่สถานีตำรวจ พร้อมหมายเลข Bank Case ID จากธนาคาร
- ติดตามผลผ่านตำรวจไซเบอร์ (1599) หรือระบบโพลิสออนไลน์
- หากพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จะเร่งปลดอายัดบัญชีให้เร็วที่สุด
เสียงจากตำรวจไซเบอร์ ในกรณี อายัดบัญชี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยืนยันว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าของบัญชีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะเร่งพิจารณาปลดอายัดทันทีเพื่อคลายความเดือดร้อน พร้อมเตือนว่า หากมีการแฝงตัวมาในคราบ “ผู้เสียหาย” จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
มาตรการ อายัดบัญชี เป็นกลไกสำคัญในการสกัดเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพและบัญชีม้า ถือเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่อการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันได้ ก็สะท้อนให้เห็นว่าระบบยังต้องมีการปรับปรุง เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการรักษาความปลอดภัยทางการเงิน กับการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการ
ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จของมาตรการนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ แต่ยังขึ้นกับการสื่อสารที่ชัดเจน การสร้างความเข้าใจ และช่องทางอุทธรณ์ที่โปร่งใส เมื่อประชาชนมั่นใจว่าหาก บัญชีถูกอายัด โดยไม่เป็นธรรม จะสามารถพิสูจน์และแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว โดยจะติดตามประเด็นการอายัดบัญชีอย่างใกล้ชิด