You are currently viewing ท้องไม่พร้อม กับสิทธิประกันสังคมเพื่อยุติการตั้งครรภ์อย่างถูกกฎหมาย

ท้องไม่พร้อม กับสิทธิประกันสังคมเพื่อยุติการตั้งครรภ์อย่างถูกกฎหมาย

ท้องไม่พร้อม เป็นเรื่องที่สังคมไทยไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ ที่อาจยังไม่มีทางออกในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยรัฐบาลไทยได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ จึงทำให้มีการตรากฎหมายพระราชบัญญัติการป้องกันและการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งมีการบังคับใช้เมื่อปี 2560

ในปัจจุบัน สำนักงานประกันสังคม เปิดให้ผู้ประกันตนหญิงที่ประสบกับภาวะการตั้งครรภ์ไม่พร้อม สามารถใช้สิทธิรับบริการยุติการตั้งครรภ์ได้ที่สถานพยาบาลที่มีสิทธิรักษา ซึ่งบทความของ SCNews ในวันนี้ จะขอมาแนะนำในเรื่องดังกล่าว พร้อมชี้แจงเงื่อนไขของผู้ที่สามารถใช้สิทธิบริการได้ เพื่อให้เข้าใจถึงภาวะของการตั้งครรภ์แบบไม่พร้อม รวมไปถึงทางเลือกของทางออกของเรื่องนี้ ผ่านแนวคิดของสำนักงานประกันสังคม

ภาวะ ท้องไม่พร้อม เรื่องที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจ

การตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปัญหาครอบครัว การขาดการเข้าถึงความรู้เรื่องเพศศึกษา ไปจนถึงเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอย่าง การตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องทำความเข้าใจ และผู้หญิงก็ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมทั้งทางร่างกายและจิตใจ รัฐบาลไทยจึงได้ตรากฎหมายพระราชบัญญัติการป้องกันและการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพื่อให้มีกลไกช่วยเหลือเด็กวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ที่มีอายุ 10 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 20 ปี เข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ตามข้อบังคับแพทยสภา

โดยข้อบังคับดังกล่าว ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2548 โดยมีข้อกำหนดว่า การยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข กรณีที่จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากปัญหาสุขภาพทางกายของหญิงมีครรภ์ หรือกรณีที่จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากปัญหาสุขภาพทางจิตของหญิงมีครรภ์ ซึ่งจะต้องได้รับการรับรองหรือเห็นชอบจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่มิใช่ผู้กระทำการยุติการตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 คน

สิทธิประกันสังคม ยุติการตั้งครรภ์ของผู้ที่ ท้องไม่พร้อม

ผู้หญิงที่ ท้องไม่พร้อม ยุติการตั้งครรภ์ ด้วยสิทธิจากประกันสังคมได้ โดยผู้หญิงท่านนั้นต้องเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลตามสิทธิได้ “โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย” ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์ในกรณีเจ็บป่วย ที่ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการบริการยุติการตั้งครรภ์ได้ ตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับของแพทยสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2564

ดังนั้น ผู้ประกันตนเพศหญิงที่มีสัญชาติไทย สามารถใช้สิทธิบริการยุติการตั้งครรภ์ได้ 2 ลักษณะ ดังนี้

  1. เข้ารับบริการหรือใช้สิทธิที่สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัย เข่นเดียวกับผู้ที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
  2. เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิ กรณีสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถให้การรักษาได้ ก็ให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามที่กรมอนามัยกำหนด หรือหากส่งต่อไปยังสถานพยาบาลศักยภาพสูงหรือสถานพยาบาลอื่น โดยให้สถานพยาบาลตามสิทธิรับผิดชอบค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน

สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ใช่สัญชาติไทย สามารถเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิ กรณีสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถให้การรักษาได้ ให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามที่กรมอนามัยกำหนด หรือหากส่งต่อไปยังสถานพยาบาลศักยภาพสูงหรือสถานพยาบาลอื่น โดยให้สถานพยาบาลตามสิทธิรับผิดชอบค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน

เงื่อนไขของการยุติการตั้งครรภ์อย่างถูกกฎหมาย

ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 มาตรา 305 กำหนดให้การยุติการตั้งครรภ์ที่กระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและเป็นตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา จะไม่ความผิดตามกฎหมาย

  1. อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ โดยอาศัยความสมัครใจของหญิงผู้ที่ตั้งครรภ์ และผ่านการปรึกษาจากบุคลากรทางการแพทย์
  2. อายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ ยุติได้หากผ่านกระบวนการให้คำปรึกษาและประเมินโดยแพทย์อย่างรอบด้าน เช่น ผลกระทบทางจิตใจ ปัญหาสังคม หรือเศรษฐกิจ
  3. จำเป็นต้องกระทำ เนื่องจากหากผู้หญิงตั้งครรภ์ต่อไป จะมีความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของผู้หญิงท่านนั้น
  4. จำเป็นต้องกระทำ เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์ที่เชื่อได้ว่า ทารกที่คลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง
  5. ผู้หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่า ตนเองมีการตั้งครรภ์เนื่องจากการกระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ

สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่สิทธิสตรีได้รับการเคารพมากยิ่งขึ้น และสำนักงานประกันสังคม ก็มีเข้าบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้หญิงที่ประสบกับภาวะท้องไม่พร้อม ให้ได้รับการดูแลที่ปลอดภัย ถูกกฎหมาย ปราศจากการตีตรา หากตัวคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเผชิญกับปัญหานี้ อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ เพราะคุณมีสิทธิของคุณ และไม่จำเป็นต้องเผชิญสิ่งนี้เพียงลำพัง