กฎหมายแรงงาน เป็นกฎหมายที่ใคร ๆ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ยาก แต่เรื่องกฎหมายถือเป็นศาสตร์ความรู้ที่มีความจำเป็นและมีผลต่อชีวิตคนเรามาก ๆ เพราะการที่เรามีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายแรงงานก็เพื่อความเป็นธรรม ในการจ้างงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง บทความของ SCNews ในวันนี้จะมาพูดถึงกฎหมายแรงงานในแบบที่ทุกท่านสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายที่สุด หากคุณเป็นนายจ้างก็ต้องรู้ไว้เพื่อจะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย หรือถ้าคุณอยู่ในฐานะของลูกจ้างก็ทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้โดนเอาเปรียบ
กฎหมายแรงงาน คืออะไร
กฎหมายแรงงาน คือ กฎหมายที่มีการบัญญัติสิทธิและหน้าที่ ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง โดยมีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการใช้แรงงานและค่าจ้าง เพื่อความปลอดภัยและเป็นธรรมต่อลูกจ้าง ครอบคลุมไปถึงสิทธิแรงงานเด็กและแรงงานหญิง เงินชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง รวมไปถึงสิทธิการลางาน ทั้งลากิจ ลาพักร้อน ลาป่วย ลาคลอด เป็นต้น
ผู้มีสถานะเป็นลูกจ้างทุกคน จำเป็นต้องศึกษากฎหมายแรงงานเอาไว้ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบจากผู้เป็นนายจ้าง หากมีการละเมิดสิทธิจากนายจ้าง ลูกจ้างสามารถแจ้งกรมแรงงานเพื่อเอาผิดกับนายจ้างได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นธรรมต่อตัวลูกจ้าง โดยเนื้อหาในข้อต่อ ๆ ไป เราจะขออธิบายถึงกฎหมายแรงงานในกรณีต่าง ๆ ให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจ
การจ่ายค่าจ้าง
กฎหมายคุ้มครองแรงงานในเรื่องการจ่ายค่าจ้างกำนดว่า ลูกจ้างทุกคนจะได้รับเป็นเงินเท่านั้น หากเป็นลูกจ้างประจำจะได้รับค่าจ้างในวันหยุดต่าง ๆ ด้วย เช่น วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักร้อน หรือวันหยุดประจำสัปดาห์ ในกรณีที่เป็นลูกจ้างรายวันจะไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ แต่จะได้รับค่าจ้างในกรณีที่ลาป่วย ลาไปคลอดบุตร หรือลาไปรับราชการทหาร ส่วนค่า OT หรือค่าจ้างทำงานในวันหยุด จะต้องได้ไม่น้อยกว่า 3 เท่าของอัตราจ้างต่อชั่วโมง
กรณีการเลิกจ้าง
กฎหมายแรงงาน ในเรื่องการเลิกจ้างฉบับล่าสุดปี 2568 แบ่งไว้เป็น 2 กรณีดังนี้
- การเลิกจ้างโดยไม่จ่ายเงินชดเชย ในกรณีที่ลูกจ้างกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา หรือมีสัญญาการจ้างงานที่ระบุระยะเวลาเริ่มงานและสิ้นสุดงานที่ชัดเจน
- การเลิกจ้างโดยมีการจ่ายค่าชดเชย กรณีที่ลูกจ้างมีสัญญาจ้างงานที่ชัดเจนและทำงานครบ 120 วันขึ้นไปแล้ว จะได้รับค่าชดเชยตามอัตราที่ระบุไว้ในกฎหมายแรงงานดังนี้
- ทำงานครบ 120 วัน ต้องได้รับค่าชดเชยจากค่าจ้างสุดท้าย 30 วัน
- ทำงานครบ 1 ปี ต้องได้รับค่าชดเชยจากค่าจ้างสุดท้าย 90 วัน
- ทำงานครบ 3 ปี ต้องได้รับค่าชดเชยจากค่าจ้างสุดท้าย 180 วัน
- ทำงานครบ 6 ปี ต้องได้รับค่าชดเชยจากค่าจ้างสุดท้าย 240 วัน
- ทำงานครบ 10 ปี ต้องได้รับค่าชดเชยจากค่าจ้างสุดท้าย 300 วัน
กรณีการเลิกงานและการลางาน
ตามกฎหมายแรงงานเมื่อถึงเวลาเลิกงานแล้ว ลูกจ้างมีสิทธิที่จะปฏิเสธการติดต่อในเรื่องงานจากนายจ้าง ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม ยกเว้นในกรณีที่ลูกจ้างให้ความยินยอม และต้องมีการเขียนสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยความสมัครใจด้วย
ในกรณีการลางาน กฎหมายแรงงานก็คุ้มครองลูกจ้างด้วย โดยจะแบ่งประเภทของการลาแต่ละประเภท ดังนี้
- ลาพักร้อน เมื่อลูกจ้างทำงานครบ 1 ปีแล้ว มีสิทธิได้รับวันลาพักร้อนอย่างน้อย 6 วันต่อปี โดยที่ยังได้รับค่าจ้างตามปกติ
- ลาป่วย ลูกจ้างจะได้สิทธิในการลาป่วยไม่เกิน 30 วันการทำงานต่อปี โดยที่ยังได้รับค่าจ้างตามปกติ แต่ถ้าหากลาป่วยเกิน 30 วัน ในวันที่ 31 จะไม่ได้รับค่าจ้าง หากลูกจ้างลาป่วยติดกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป จะต้องมีใบรับรองแพทย์ แต่ถ้ากรณีที่ลูกจ้างเกิดป่วยและประสบอุบัติเหตุจากการทำงานจะไม่ถือเป็นการลาป่วย
- ลาคลอด ลูกจ้างจะได้สิทธิในการลาคลอดบุตรไม่เกิน 98 วัน โดยรวมวันลาในการไปตรวจครรภ์ก่อนคลอด วันคลอด และระหว่างพักฟื้นหลังคลอดด้วย โดยระหว่างลาคลอดบุตร ลูกจ้างจะยังได้รับค่าจ้างจากประกันสังคม 45 วัน และจากนายจ้าง 45 วันด้วย
- ลากิจ ตามกฎหมายแรงงาน ฉบับล่าสุด นายจ้างสามารถดำหนดวันลากิจกี่วันก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 วันต่อปี หากลูกจ้างต้องการลากิจมากกว่า 3 วันต่อปี สามารถลาแบบไม่รับค่าจ้าง หรือจะใช้ลาพักร้อนแทนก็ได้
กฎหมายแรงงาน กรณีการใช้แรงงาน
ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานในเรื่องการใช้แรงงาน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
- ควรทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
- ภายใน 5 ชั่วโมงแรกของการทำงาน ต้องมีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง อาจแบ่งเวลาพักเป็นครั้งละไม่น้อยกว่า 20 นาที แต่เวลาพักโดยรวมต้องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
แรงงานหญิง
- การใช้แรงงานหญิง ห้ามลูกจ้างหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ทำงานในช่วง 22:00 – 06:00 น. รวมไปถึงการทำงานล่วงเวลา และทำงานในวันหยุดด้วย
- ห้ามแรงงานหญิงทำงานที่เสี่ยงอันตราย เช่น งานในเหมืองแร่ งานก่อสร้างที่ต้องทำใต้ดิน ใต้น้ำ ในถ้ำหรืออุโมงค์ รวมไปถึงงานนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดิน 10 เมตร
แรงงานเด็ก
- ห้ามจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเป็นลูกจ้าง
- ลูกจ้างเด็กมีสิทธิฝึกอบรม โดยจะได้รับค่าจ้าง 30 วันด้วย
- กรณที่นายจ้างทำการจ้างลูกจ้างที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี นายจ้างต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงานด้วย
- ห้ามไม่ให้นายจ้างใช้ลูกจ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในช่วงเวลา 22:00 – 06:00 น. และไม่ให้ทำงานล่วงเวลาด้วย
ทั้งหมดนี้คือการอธิบาย กฎหมายแรงงาน ในแบบที่ง่ายที่สุด หากทุกท่านได้อ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่ากฎหมายแรงงานถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ โดยทั้งนายจ้างและลูกจ้างเองก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย นายจ้างก็ควรต้องทราบรายละเอียดและปฏิบัติตามเพื่อไม่ให้เป็นผู้ที่ละเมิดกฎหมายแรงงาน ส่วนของลูกจ้างเองก็ต้องมีความรู้ เพื่อไม่ให้ตนเองตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หากเกิดการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมต่อตัวลูกจ้าง หากลูกจ้างเจอกับการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งกรมแรงงานเพื่อเอาผิดนายจ้างได้