ย้ายสิทธิบัตรทอง ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ต้องไปรอนาน การขอ ย้าย สิทธิบัตรทอง ซึ่งเป็นสิทธิการรักษาพยาบาล ของประชาชนคนไทยจำนวนมาก สามารถที่จะทำรายการต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ง่ายดาย สามารถทำเสร็จสิ้นภายในวันเดียว ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเลย แม้แต่นิดเดียว โดยสามารถทำรายการ การขอ ย้าย สิทธิบัตรทอง ออนไลน์ ฟรี ผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้แอพพลิเคชั่น ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ หรือ สปสช. ซึ่งเป็นวิธีการย้ายสิทธิ ซึ่งมีความสะดวกสบายกว่าการไปทำเรื่องขอย้ายที่จุดให้บริการ นับว่าเป็นความสะดวกสบาย ที่ถือเป็นสวัสดิการที่ได้รังสรรค์ขึ้นมาเอาใจ และ อำนวยความสะดวกในการบริการประชาชนได้อย่างแท้จริง
ช่องทางการ ย้ายสิทธิบัตรทอง ง่ายๆ ไม่ต้องย้ายทะเบียนบ้าน
ปัจจุบันมีประชาชนที่ใช้ สิทธิบัตรทอง จำนวนมากที่ยังมีข้อจำกัดในการรักษาพยาบาล ตามสิทธิ ถึงแม้จะสามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานได้ ในทุกแห่ง แต่หากมีความเจ็บป่วยเกินศักยภาพของสถานพยาบาล และ ยังต้องติดต่อโรงพยาบาลตามสิทธิในต่างจังหวัด ก็ก่อให้เกิดความยุ่งยาก และ ไม่สามารถที่จะเข้าถึงการบริการได้โดยสะดวก ในปัจจุบันมีช่องทางในการบริการประชาชน ผู้มีสิทธิในบัตรทอง ซึ่งอาศัย หรือทำงานเรียนหนังสือในกรุงเทพมหานคร สามารถที่จะ ย้าย สิทธิบัตรทอง จากต่างจังหวัดมาใช้สิทธิที่ กทม. ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องย้ายทะเบียนบ้าน ผ่านช่องทางการขอ ย้าย สิทธิบัตรทอง ข้ามจังหวัด ดังต่อไปนี้
- Application ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพหรือสปสช สามารถทำรายการเรื่องเมนูเปลี่ยนหน่วยบริการได้ด้วยตัวเอง
- Add LINE OA ของสปสชโดยสามารถพิมพ์ ID LINE @nhso ในช่องเพิ่มเพื่อน เพื่อทำรายการเลือกเมนูเปลี่ยนหน่วยบริการได้เลยตามต้องการ
- สามารถที่จะติดต่อขอย้ายสิทธิบัตรทองด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการสาธารณสุขหรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
- ติดต่อสายด่วน สปสช. เบอร์ 1330 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ย้ายสิทธิบัตรทองให้
เงื่อนไขและเอกสารที่ต้องใช้ในการ ย้าย สิทธิบัตรทอง
เงื่อนไขของการลงทะเบียนเพื่อ ย้าย สิทธิบัตรทอง จะต้องเป็นผู้มีสิทธิในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ มีสิทธิในบัตรทอง มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และ ต้องลงทะเบียนด้วยตัวเอง ปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะทำการ ย้ายสิทธิ แทนคนอื่นได้ โดยเอกสารที่จำเป็นในการใช้ดำเนินการ ย้าย สิทธิบัตรทอง จะใช้เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง
- หลักฐานที่แสดงถึงการพักอาศัยใน กรุงเทพมหานคร อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือรับรองของเจ้าของบ้าน หนังสือรับรองจากผู้นำชุมชน หนังสือรับรองจากผู้ว่าจ้าง หรือ นายจ้าง เอกสารหลักฐานที่มีชื่อของคนที่ต้องการลงทะเบียนย้ายสิทธิ เช่น ใบเสร็จค่าเช่าที่พัก สัญญาการเช่าบ้าน ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ต้องการจะลงทะเบียนขอ ย้าย สิทธิบัตรทอง สามารถที่จะทำหนังสือรับรองตนเองก็ทำได้เช่นเดียวกัน
ขั้นตอนง่ายๆ ในการ ย้าย สิทธิบัตรทอง ออนไลน์ ฟรี
ด้วยเทคโนโลยีอันสุดล้ำ จึงสามารถที่จะขอ ย้าย สิทธิบัตรทอง เพื่อเปลี่ยนหน่วยบริการเลือกสถานพยาบาลประจำได้ง่ายๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการ ย้ายสิทธิบัตรทองผ่านแอป ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- เปิด Application LINE และพิมพ์ @nhso เพื่อค้นหาและเพิ่มเพื่อน LINE กับ สปสช.
- กดยอมรับเงื่อนไขและกรอกเลขประจำตัวประชาชน กรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆเพิ่มเติมเล็กน้อย
- กรอกเลขหลังบัตรประชาชน ซึ่งจะต้องกรอกตัวอักษรภาษาอังกฤษจำนวน 2 ตัวและตัวเลขจำนวน 10 ตัว
- ระบบจะกำหนดให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลักด้วยตัวเอง หลังจากนั้นจึงกรอกหมายเลขโทรศัพท์เพื่อรอรับรหัส OTP ทำการใส่รหัสที่ได้รับแล้วกดเพื่อยืนยัน
- ทำรายการขอ ย้ายสิทธิบัตรทอง โดยเลือกเมนู ตรง หากว่าที่พักอาศัยในปัจจุบันนั้นตรงกับที่อยู่ในบัตรประชาชน
- ทำการถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนโดยใช้กล้องมือถือ และทำการถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับบัตรประชาชน จากนั้นทำการกดอัปโหลดรูป
- หากที่อยู่อาศัยในปัจจุบันไม่ตรงกับที่อยู่ในบัตรประชาชน ให้เลือกเมนู ไม่ตรง และอัปโหลดหลักฐานที่แสดงถึงการพักอาศัยในปัจจุบัน
- ระบบจะมีรายการเครือข่ายของสถานบริการที่สามารถกดเลือกตามที่ต้องการได้เลย
- เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วระบบจะแสดงผลการรับข้อมูลโดยสามารถใช้สิทธิที่เกิดขึ้นได้ทันทีโดยเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ได้ใน LINE ซึ่งการย้ายสิทธิบัตรทองสามารถย้ายได้ถึง 4 ครั้งต่อปีงบประมาณเลยทีเดียว
บทสรุป การย้ายสิทธิบัตรทองออนไลน์ ง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ในยุคปัจจุบันการ ย้ายสิทธิบัตรทอง ทำได้ง่ายๆ สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการสถานพยาบาล เพียงปลายนิ้วสัมผัส ก่อเกิดสิทธิได้เลยในทันที เป็นสิ่งดี ๆ ที่ควรจะรักษาสิทธิโดยสามารถ ที่จะศึกษา และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องการ แจ้งย้ายสิทธิบัตรทอง ออนไลน์ ได้เลยผ่าน Call Center เบอร์โทร 1330 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง หรือจะสอบถามผ่านช่องทาง Application LINE ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเลยแม้แต่นิดเดียว
Website : ข่าวทันเหตุการณ์
แห่งที่มา : สปสช.