กรดไหลย้อน ร้ายแรงกว่าที่เราคิด อย่าปล่อยให้เป็นเรื้อรัง ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งในการดำรงชีวิต ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้สึกหิวแต่ยังไงก็ต้องกินเพื่อให้ร่างกายมีแรง แต่ถ้าใครที่กินอาหารเข้าไปแบบรีบ ๆ แล้วก็ล้มตัวลงนอนเลย ก็จะพบกับอาการแสบร้อนกลางอก ที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ โดยอาการนั้นมีชื่อเรียกว่า กรดไหลย้อนที่หลายคนรู้จักกันดี

สาเหตุของการเกิด กรดไหลย้อน

          หลังจากที่เรากินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเลยก็คือ การนอนราบลงทันที เพราะมันจะทำให้น้ำย่อยที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหารที่อยู่ใกล้กับหัวใจ จนทำให้เรารู้สึกแสบร้อนได้ทั้งบริเวณกลางอก, ลำคอ หรือคอหอย

อาการของ กรดไหลย้อน ทั่วไป

อาการนี้จะหายไปได้เองในเวลาไม่กี่นาที แต่บางคนอาจใช้เวลานานเป็นชั่วโมงกว่าอาหารจะย่อย โดยปกติแล้วอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่อันตรายมากนักถ้าหากนาน ๆ จะเกิดสักครั้งหนึ่ง แต่ถ้าอาการเกิดขึ้นแบบถี่ ๆ เช่น ภายใน 1 เดือน เกิดอาการตั้งแต่ 5 ครั้ง ขึ้นไป ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่ามันไม่ใช่ กรดไหลย้อนทั่วไป แต่มันกำลังจะกลายเป็น กรดไหลย้อนเรื้อรัง ที่มีอาการมากกว่าความแสบร้อน และนั่นเป็นสัญญาณเตือนอันตรายมากกว่าที่คิด หากใครที่มีอาการแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

อาการของกรดไหลย้อนเรื้อรัง

การแสดงอาการก็จะเริ่มจากอาการแสบร้อนกลางอกเหมือนกัน แต่จะมีอาการอื่นเข้ามาเพิ่ม เช่น มีการสำรอกอาหารจนรู้สึกถึงรสขม และรสเปรี้ยวในกระเพาะ, ปวดท้องส่วนบน, กลืนอาหารได้ยาก, รู้สึกมีก้อนในลำคอ โดยอาการนี้ยังลามไปถึงช่วงกลางคืนที่จะทำให้เกิดอาการไออย่างต่อเนื่อง, กล่องเสียงอักเสบ หากใครที่เป็นโรคหอบอยู่แล้วอาจทำให้อาการแย่ลงได้

อันตรายจากกรดไหลย้อนเรื้อรัง

หากใครที่กำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่ขอให้รู้ไว้ว่าไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะผลลัพธ์ที่ได้เรียกว่าเข้าขั้นอันตราย และอาจส่งผลให้การใช้ชีวิตลำบากกว่าปกติ โดยอาการที่เกิดขึ้นมีดังนี้

1. หลอดอาหารอักเสบ เนื่องจากเยื่อบุหลอดอาหารที่ถูกกัดจากกรดไหลย้อน จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง และเกิดการอักเสบ หากปล่อยระยะเวลานานไป อาจทำให้เกิดบาดแผลจนเลือดออกได้
2. หลอดอาหารตีบ Strictures อาการนี้อาจเกิดได้กับคนที่มีอาการอักเสบ เมื่อเกิดแผลเป็นในหลอดอาหาร จะทำให้หลอดอาหารตีบ และมันจะส่งผลต่อการลำเลียงอาหารกับน้ำไปยังกระเพาะอาหารด้วย
3. ภาวะเยื่อบุหลอดอาหารเปลี่ยนสภาพ มักพบได้ในคนที่เป็น กรดไหลย้อนเรื้อรัง มาเกินกว่า 1 ปี ซึ่งถือว่าอันตรายมาก เพราะมันมีโอกาสที่จะกลายเป็น โรคมะเร็งหลอดอาหาร
4. มะเร็งหลอดอาหาร มีทั้ง มะเร็งชนิดต่อม ที่เกิดขึ้นบริเวณหลอดอาหารส่วนล่าง กับ มะเร็งผิวหนัง ที่เกิดขึ้นบริเวณหลอดอาหารส่วนกลาง และส่วนบน

ทำอย่างไรให้ห่างไกลกรดไหลย้อนเรื้อรัง

1. ดูแลร่างกาย ด้วยการควบคุมน้ำหนัก เพราะถ้ามีไขมันมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดได้หลายโรค
2. ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูป เพราะการที่หน้าท้องถูกรัดจะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดทำงานได้ไม่ดี
3. ไม่สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่จะทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานแย่ลง
4. ไม่ควรนอนหลังกินอาหารเสร็จ เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดจะอาการกรดไหลย้อน ได้
5. นอนตะแคงด้านซ้าย เพื่อช่วยลดการเกิดอาการกรดไหลย้อน
6. จัดที่นอนด้านบนให้สูงขึ้น โดยให้ช่วงหัวถึงเอวสามารถยกสูงได้ ไม่ใช่นอนราบอย่างเดียว

การรักษา

ในปัจจุบันการรักษา กรดไหลย้อนทั่วไป ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะส่วนใหญ่มักหายไปได้เอง โดยอาจจะใช้วิธีกินยาลดกรดในกระเพาะ หรือสอบถามจากเภสัชกรร้านยาโดยตรง แต่ถ้ามีอาการที่รุนแรงกว่านี้  ก็น่าจะเป็นไปได้ว่าเกิดอาการ กรดไหลย้อนเรื้อรัง จึงควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ และควรเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตด้านต่าง ๆ หากทำได้ก็จะช่วยให้ห่างไกลจากอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน