You are currently viewing เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ ปี 2566 Update ล่าสุด

เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ ปี 2566 Update ล่าสุด

เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ ปี 2566 Update ล่าสุด การให้ความช่วยเหลือ ผู้สูงอายุ ของรัฐบาลนับว่ามีหลายด้านที่เอื้อประโยชน์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์, การอำนวยความสะดวก, การลดหย่อนค่าโดยสาร, การยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ และการช่วยเหลือเงินเบี้ยยังชีพ โดยข่าวล่าสุดก็ได้มีการออกประกาศจากกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เกี่ยวกับเรื่องการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ผ่านทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเราจะพาไปดูว่าการ Update เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ ปี 2566 มีขั้นตอนยังไง แล้วต้องใช้เอกสารอะไรประกอบการยื่นคำขอบ้าง

หลักเกณฑ์ในการรับ เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ

หลักเกณฑ์ในการรับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติที่ครบ ทั้ง 3 ข้อ จึงจะสามารถยื่นคำขอได้

  1. ผู้สูงอายุต้องมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  2. ผู้สูงอายุจะต้องมีสัญชาติไทย
  3. ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ไม่มีบัตร หรือไม่ได้ลงทะเบียนจะต้องให้ผู้อํานวยการเขต / นายอําเภอ / กํานัน / ผู้ใหญ่บ้าน / นายกเทศมนตรี / นายกองค์การบริหารส่วนตําบล / นายกเมืองพัทยา / ประธานชุมชน (อย่างใดอย่างหนึ่ง) ออกหนังสือรับรองให้
  4. . ผู้สูงอายุมีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน, ศูนย์พัฒนาฯ, สถานสงเคราะห์ ฯลฯ เมื่อเสียชีวิตจะต้องนำไปทำพิธีที่วัด, มัสยิด หรือโบสถ์
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นคำขอ

  1. ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ
  2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุ หรือหนังสือรับรองที่ออกตามรูปแบบของกรมกิจการผู้สูงอายุ
  3. บัตรประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ ที่มีรูปถ่ายกับเลขประจําตัวของผู้ยื่นคําขอ ถ้ามีการจัดพิธีภายในวัด, มัสยิด หรือโบสถ์ จะต้องแนบหนังสือแสดงการจดทะเบียน หรือการอนุญาตให้สร้างมาด้วย
  4. สมุดบัญชี หรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคําขอ หากต้องการรับเป็นเงินสด จะต้องทำให้ถูกต้องตรงตามระเบียบของทางราชการ
  5. หนังสือรับรองการเป็นผู้รับผิดชอบ ที่ออกโดยบุคคลในหลักเกณฑ์ข้อ 3 ส่วน ผู้สูงอายุ ที่อาศัยในสถานที่ของรัฐ จะต้องใช้ผู้ยื่นคําขอกับผู้รับรองคนละคนกัน
  6. ทะเบียนบ้านของผู้ยื่นคำร้อง

ขั้นตอนการยื่นคำขอ

การที่ผู้ยื่นคําขอจะได้รับ เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุนั้น ก็จะต้องไปยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือภูมิลําเนา หากอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพ ฯ ให้ไปยื่นคำขอที่สํานักงานเขต แต่ถ้าอาศัยอยู่ในต่างจังหวัดให้ไปยื่นคําขอที่สํานักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด, ที่ว่าการอําเภอ, สํานักงานเทศบาล, ที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบล หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา และผู้ยื่นคำขอจะต้องยื่นคำขอภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตรพร้อมกับเอกสาร

เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุ

ขั้นตอนการยื่นคำขอ มีดังนี้

  1. กรอกข้อมูลในแบบคำขอรับเงินสงเคราะห์ฯ (แบบ ศผส.01) โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
    • ผู้ยื่นคำร้องต้องกรอกข้อมูล และลงชื่อ
    • ผู้รับรองต้องกรอกข้อมูล และลงชื่อ
  2. หาก ผู้สูงอายุ ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องมีหนังสือรับรอง (แบบ ศผส.02) รวมถึงการแนบสำเนาบัตรประจำตำแหน่งของผู้รับรอง (บุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
  3. กรอกแบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online พร้อมลงชื่อ

เมื่อรู้หลักเกณฑ์ที่เข้าเงื่อนไข พร้อมกับขั้นตอนต่าง ๆ เกี่ยวกับกรณีการรับ เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตผู้สูงอายุปี 2566 แล้ว ผู้ยื่นคำขอซึ่งอาจเป็นทายาท หรือเป็นผู้ดูแลก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ ผู้สูงอายุ เสียชีวิตไป แล้วทำตามทุกขั้นตอนก็จะได้รับเงินจำนวน 3,000 บาท ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

แต่ทางที่ดีหากใครที่ยังมี ผู้สูงอายุ ให้ดูแลอยู่ก็หมั่นพูดคุย และให้เวลามาก ๆ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ แม้เราจะเสียใจแต่จะไม่เสียดาย เพราะอย่างน้อยเราก็ดูแลอย่างถึงที่สุดแล้ว และสำหรับ ผู้สูงอายุ ที่ถูกทิ้ง, ไร้บ้าน หรือว่ายังต้องสู้กับความลำบากอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าหาก ผู้สูงอายุ เหล่านั้นได้รับสวัสดิการดี ๆ ที่เข้าถึงได้ง่าย ก็น่าจะเป็นการช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอีกมาก และหวังว่าคงจะได้รับการช่วยเหลือในเร็ววัน