ว่านหางจระเข้ เป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มีอายุได้หลายปี เป็นพืชที่ขึ้นได้ในเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ต่อมาได้แพร่ขยายพันธุ์ไปสู่เอเชียและยุโรป จนทุก ๆ วันนี้ ว่านหางจระเข้เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกไปแล้ว โดยว่านหางจระเข้มีมากมายกว่า 300 สายพันธุ์ ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็กกว่า 10 เชนติเมตร ไปจนถึงสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่
การนำ ว่านหางจระเข้ มาใช้เป็นอาหาร
นิยมนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มคลายร้อน หรือไม่ก็นำมาทำเป็นขนมวุ้นว่านหางจระเข้ลอยแก้ว ซึ่งอร่อยได้คุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกาย ซึ่งในวันนี้ scnews ได้นำสูตรน้ำว่านหางจระเข้ใบเตยมาแจกให้กับทุกท่านได้ไปดื่มคลายร้อน โดยมีวิธรทำดังนี้
น้ำว่านหางจระเข้
วัตถุดิบการทำน้ำว่านหางจระเข้
- ว่านหางจระเข้
- ใบเตย
- น้ำเชื่อม
- น้ำแข็งทุบ
วิธีการทำน้ำว่านหางจระเข้
- นำว่านหางจระเข้มาล้างน้ำ จากนั้นก็ปอกเปลือกให้หมด แล้วนำไปล้างน้ำอีกที ให้ยางเหลือง ๆ ออกไปจนหมด
- นำว่านหางจระเข้ที่ปอกเปลือกแล้วไปต้มจนสุก
- จากนั้นให้หั่นว่านหางจระเข้ชิ้นเล็ก ๆ เพื่อเตรียมปั่น
- ล้างใบเตยให้สะอาด แล้วนำใบเตยมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- นำใบเตยที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไปต้มน้ำ เพื่อให้กลิ่นหอมออกมาอยู่กับน้ำที่ต้มใบเตย
- เอาว่านหางจระเข้ใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำใบเตย แล้วใส่น้ำเชื่อมตามแต่เราจะชอบ
- ปั่นให้น้ำใบเตยและว่านหางจระเข้เข้ากัน ซึ่งเราอาจจะเทน้ำว่านหางจระเข้ที่ได้ใส่น้ำแข็ง หรือว่าจะนำน้ำแข็งมาปั่นรวม
ก็ได้ แล้วแต่เราจะชอบ - เอาน้ำเทใส่แก้ว เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
สรรพคุณด้านต้านมะเร็ง ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ มีสาร aloe-emodin ที่กระตุ้น macrophage มีฤทธิ์ช่วยยับยั้ง และกำจัดเซลล์มะเร็ง รวมทั้งยังมีสาร acemannan ช่วย
กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชลล์ปกติและยับยั้งการแพร่ขยายของเซลล์มะเร็งได้
สรรพคุณทั่วไป
- รักษาแผลไฟไหม้ และน้ำร้อนลวก ใช้เนื้อที่เป็นวุ้นใสทา หรือแปะที่แผลให้เปียกอยู่ตลอดเวลา แผลจะหายเร็วขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน หรืออาการปวดจะไม่เกิดขึ้น รักษาแผลเป็นได้ดี
- ช่วยรักษาแผลถลอก ให้ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้นำมาทาแผลเบา ๆ ในวันแรกต้องทาบ่อย ๆ จะช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลแห้งและหายเร็วยิ่งขึ้น และทำให้ไม่เจ็บแผลมากอีกด้วย (ควรเป็นวุ้นจากใบ)
สาระน่ารู้-ข้อควรรู้
ในสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานว่านหางจระเข้ เพราะฤทธิ์ระบายของว่านฯ จะทำให้มดลูกบีบตัว และคลอดก่อนกำหนดได้
