บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2564 สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับสำหรับผู้ที่ลงทะเบียน

แนวคิดของ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2564 เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้มีรายได้น้อย ให้ได้ใช้เงินในชีวิตประจำวันด้วยสภาพคล่อง ถือเป้าหมายที่เกิดจากรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ร่วมกับ กระทรวงการคลัง โดยมีขั้นตอนให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ หากใครลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับ บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเงินสำหรับใช้จ่ายค่าอุปโภค บริโภคต่าง ๆ ในราคาถูกกว่าปกติ ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง โดยสิ่งที่ประชาชนจะได้รับภายในเดือน กันยายน 2564

สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับสำหรับผู้ที่ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2564

วันที่ 1 กันยายน 2564

1. เงินค่าอุปโภค บริโภค ที่ต้องใช้ภายใน ร้านค้าประชารัฐ แบ่งตามเกณฑ์รายได้ คือ

  • จำนวน 200 บาท/ เดือน สำหรับผู้มีรายได้มากกว่า 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี
  • จำนวน 300 บาท/เดือน สำหรับผู้มีรายได้น้อยกว่า 3 หมื่นบาท/ปี

2. เงินเยียวยาพิเศษ

เงินเยียวยาพิเศษ 200 บาท มีกำหนดจ่ายทุกวันที่ 1 ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 – ธ.ค. 2564 ใช้จ่ายได้ตามร้านที่เข้าร่วมโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3

3. เงินค่าเดินทาง 500 บาท / เดือน เช่น รถเมล์, BTS, MRT ใช้จ่ายผ่านบัตร เปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้

4. ลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาท/3 เดือน แต่ได้ใช้เฉพาะร้านที่เข้าร่วม โครงการประชารัฐ อย่างเดียว

วันที่ 15 กันยายน 2564

คืนภาษี 5% เฉพาะผู้ที่เติมเงินเข้าไปในบัตร โดยรัฐจะทำการคืนภาษีให้ แล้วค่อยนำไปกดเป็นเงินสด หรือจะเก็บไว้เพื่อไปรูดซื้อของก็ได้

วันที่ 18 กันยายน 2564

1. ค่าไฟฟ้าจำนวน 230 บาท/1 ครัวเรือน แต่ต้องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่ถ้ามีการใช้ไฟฟ้าเกินกำหนด จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าส่วนเกินเอง

2. ค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท/1 ครัวเรือน/เดือน แต่ต้องไม่เกินกำหนด หากใช้น้ำประปาเกินกำหนด จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาส่วนเกินเอง

วันที่ 22 กันยายน 2564

เพิ่มเบี้ยผู้พิการที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป อีก 200 บาท/เดือน จากเดิมที่ได้รับ 800 บาท/เดือน รวมได้รับเงิน 1,000 บาท/เดือน ถ้ามี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถกดเป็นเงินสดจากตู้ ATM ธนาคารกรุงไทยได้

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นับเป็นตัวช่วย ของผู้มีรายได้น้อย ได้อีกทางหนึ่ง เพราะในยามที่สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีเงินที่สามารถครองชีพได้อยู่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีประชาชนบางกลุ่มที่เข้าไม่ถึง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาจเป็นเพราะว่าไม่รู้จักเทคโนโลยี หรือไม่รู้ข่าวคราว หากมีการประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงกว่านี้ก็จะดีไม่น้อย