อาการโควิด 2568 กำลังเป็นประเด็นที่หลายคนอยากรู้เป็นอย่างมาก เพราะมีรายงานว่า โรคโควิด-19 กำลังกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งแล้ว ซึ่งเป็นการระบาดในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย แม้ตัวเลขของผู้ป่วยรุนแรงจะลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ก็มีการประกาศให้ทุกคนได้เฝ้าระวังกัน เพราะตอนนี้ ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฤดูฝน มีความเสี่ยงที่จะมีระบาดของโรคมากกว่าปกติ
เนื้อหาสาระที่ SCNews นำเสนอในบทความนี้ เป็นการพาทุกท่านไปอัปเดตถึงเรื่องสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่กำลังกลับมาระบาดอีกครั้ง พร้อมทำความรู้จักกับสายพันธุ์ของโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน รวมไปถึงวิธีการดูแลตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้ออีกด้วย หากทุกท่านรู้ถึงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันแล้ว ก็สามารถรับมือได้ไม่ยากอย่างแน่นอน
อาการโควิด 2568 เกิดจากสายพันธุ์อะไร
ในช่วงวันที่ 4-8 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ทางกรมควบคุมโรคได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 แล้วพบว่ามีผู้ป่วยจำนวน 7,013 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยการแพร่ระบาดของโรค มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากมารวมตัวกัน และในประเทศไทยก็เพิ่งจะผ่านเทศกาลสงกรานต์มาได้ไม่นาน ต่อเนื่องด้วยการเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้น
โดยเชื้อโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ คือสายพันธุ์ XEC ที่เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนอีกที ซึ่งผลสำรวจบอกว่าอาการโควิด 2568 ไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก แต่กลับเป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะการแพร่ระบาดที่รวดเร็วมาก ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนก็ไม่ควรละเลยการติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ที่มีแนวโน้มจะแสดงอาการป่วยอย่างรุนแรงในกรณีที่ติดเชื้อ โดยบุคคลในกลุ่มเสี่ยงมีดังนี้
- ผู้อายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน

โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ มีอาการเป็นอย่างไรบ้าง
แม้ว่าในระยะหลัง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 จะไม่ได้มีอาการที่รุนแรงมากนัก เพราะเชื้อโณคได้กลายเป็นเชื้อประจำถิ่นไปแล้ว อีกทั้งคนส่วนใหญ่ก็ได้รับวัคซีนป้องกันกันไปหลายเข็มแล้วด้วย แต่ทุกคนก็ควรสังเกตและเฝ้าระวัง อาการโควิด 2568 อย่างไม่ประมาท โดยอาการของโรคจะเป็นดังนี้
- มีไข้สูง แตะบริเวณหน้าอกจะรู้สึกร้อน
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรง
- คัดจมูก มีน้ำมูก น้ำมูกไหล หายใจลำบาก
- คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ในบางรายอาจสูญเสียการรับรสและกลิ่น หรือท้องเสีย
- มีอาการไออย่างต่อเนื่อง ไอหลายครั้งรวมกันเกิน 3 ชั่วโมง
ในผู้ป่วยบางรายก็อาจไม่ได้แสดงอาการของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ XEC อย่างชัดเจน หรือมีอาการบางอย่างเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่ถ้าหากรู้สึกผิดปกติ ให้ทำการตรวจ ATK ได้เลย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น ในกรณีที่ผลการตรวจบ่งชี้ว่าติดเชื้อ
ก่อนเกิด อาการโควิด 2568 มีระยะแพร่เชื้อนานเท่าใด
ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแต่ละราย จะแสดงอาการของโรคไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอาการและสุขภาพร่างกายของแต่ละคน ในส่วนอาการของโรคโควิด-19 ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการออกมา หลังจากได้รับเชื้อมาแล้วประมาณ 3-5 วัน และอาจถึง 7 วันในผู้ป่วยบางราย แม้ในช่วงที่ร่างกายยังแสดงอาการป่วยไม่ชัดเจน แต่ก็ยังสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคให้กับผู้อื่นได้
หากติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ใช้เวลากี่วันถึงจะหาย
ระยะเวลาในการป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและอาการของผู้ป่วยแต่ละคน สำหรับผู้ป่วยที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว ในช่วงกักตัว อาจมีอาการหนักในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลง และหายดีในช่วง 7-10 วัน ถ้าตรวจ ATK แล้วผลขึ้น 1 ขีดแล้ว ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ แต่ควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ก่อน
แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอย่าง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ และเด็ก ควรเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หากผลตรวจออกมาว่าติดเชื้อโควิด-19 เพื่อรับยาต้านโควิด และดูแลรักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์
หากคุณสงสัยว่าตนเองมี อาการโควิด 2568 ควรใช้ชุดตรวจ ATK ในการตรวจเบื้องต้น เพื่อเป็นการคัดกรองและแยกตัวเองออกจากผู้อื่น ในกรณีที่มีการติดเชื้อ และมีอาการรุนแรง อย่าลังเลที่จะเข้ารับการรักษาจากแพทย์ และหากคุณยังได้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รักษาสุขลักษณะอนามัยให้ดี เพียงเท่านั้นก็ช่วยให้คุณสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แล้ว