สิทธิ์ในการรับค่าคลอดบุตรของประกันสังคม

สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่อยู่ในวัยทำงาน ก็ต้องขอแสดงความยินดีกันไว้ล่วงหน้า เพราะหลังจากนี้ไปเราก็จะได้อนาคตของชาติเพิ่มขึ้นมาอีก แต่รู้หรือไม่ว่าคุณแม่ที่เป็น ผู้ประกันตน จะได้รับ สิทธิ์ในการรับค่าคลอดบุตรของประกันสังคม ด้วย หากคุณแม่ไม่ได้เป็น ผู้ประกันตน แต่คุณพ่อเป็น ผู้ประกันตน ก็สามารถเบิกได้เช่นกัน ว่าแต่จะมีเงื่อนไขอะไรบ้างก็ต้องคอย Update เรื่อย ๆ เพราะมันอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยข้อมูลล่าสุดที่นำมาฝากเป็นข้อมูลสด ๆ ร้อน ๆ ที่เพิ่ง Update เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

เงื่อนไขในการใช้ สิทธิ์ในการรับค่าคลอดบุตรของประกันสังคม มีดังนี้

1. ต้องมีการนำส่งเงินมากกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนที่จะคลอด
          2. การเบิกเงินค่าคลอด ในกรณีที่เป็น ผู้ประกันตน ทั้งสองคน จะใช้สิทธิ์ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
          3. คุณแม่จะได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงาน ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นเวลา 90 วัน (กรณีเป็น ผู้ประกันตน)

เอกสารสำหรับการเบิกค่าคลอดบุตร มีดังนี้

1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01

          2. สูติบัตรบุตร

          3. หากคุณพ่อเป็น ผู้ประกันตน ต้องใช้ทะเบียนสมรส แต่ถ้าไม่มีให้ใช้หนังสือรับรองบุตร

          4. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร

ขั้นตอนในการเบิกเงินฝากครรภ์

โดย ขั้นตอนในการเบิกเงินฝากครรภ์ คุณแม่จะต้องเตรียมสมุดฝากครรภ์, ใบเสร็จตัวจริงที่ได้รับจากโรงพยาบาล / คลินิก, สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และใบรับรองแพทย์ที่รับรองอายุครรภ์ 5 ช่วง คือ

          1. มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ (จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท)

          2. มีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ (จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท)

          3. มีอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ (จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท)

          4. มีอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ (จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท)

          5. มีอายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ – 40 สัปดาห์ขึ้นไป (จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท)

เมื่อตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยแล้ว สามารถนำไปยื่นได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด หรือ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร โดยหลังจากที่แจ้งแล้วสามารถเข้าไปตรวจสอบการเดินเรื่องได้ที่เว็บไซต์ของ ประกันสังคม

          ส่วนคุณแม่ที่มีฐานะทางการเงินไม่ค่อยคล่อง ไม่มีเงินที่จะฝากครรภ์แล้วก็ปล่อยไว้เฉย ๆ แบบนั้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะถ้าหากเกิดภาวะวิกฤตขึ้นมา คุณแม่จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกน้อยปลอดภัยหรือไม่ ทางที่ดีก็ควรจะทำให้ถูกขั้นตอน เพื่อให้ลูกสมบูรณ์แข็งแรง และถ้าหากไม่มีกำลังทรัพย์จริง ๆ สามารถเข้าไปสอบถามเรื่อง การฝากครรภ์ฟรี ได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้เลย