วิธีลงทะเบียน เงินดิจิทัล เงื่อนไขล่าสุด ซื้ออะไรได้บ้าง พรรคเพื่อไทยมีการนำเสนอนโยบายเรื่อง เงินดิจิทัล 10,000 บาท ในตอนที่หาเสียง และได้มีการประกาศเอาไว้ว่า ถ้าหากได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะแจกเงินให้กับทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป โดยต้องถือบัตรประชาชน 13 หลัก และจะเปิดใช้นโยบายนี้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป แต่นั่นเป็นนโยบายที่เสนอไว้ตั้งแต่แรก เพราะข่าวอัปเดตใหม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขไปอีก ซึ่งเราจะมาบอก วิธีลงทะเบียนดิจิทัล เงื่อนไขล่าสุด ซื้ออะไรได้บ้าง
เงินดิจิทัล คืออะไร
เงินดิจิทัล เป็นเงินที่สร้างขึ้นมาด้วยการใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยสกุลเงินนี้ถูกออกโดยธนาคารกลาง และจะอยู่ที่ธนาคารกลางโดยตรง ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
การลงทะเบียน / การยืนยันตัวตน
เงื่อนไขที่เราได้ยินในตอนแรกก็คือ ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป ที่มีบัตรประชาชน 13 หลัก จะได้รับเงินเข้าแบบอัตโนมัติ แต่ข่าวล่าสุดแจ้งว่าประชาชนที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการใด ๆ ของรัฐ จะต้อง ยืนยันตัวตน ผ่าน ระบบ KYC เพื่อทำการรับสิทธิ์ ส่วนประชาชนที่เคยทำการ ยืนยันตัวตน แล้วจากโครงการอื่น ก็ไม่ต้องทำในขั้นตอนนี้
ระบบ KYC คืออะไร
ระบบ KYC เป็นการตรวจสอบตัวตนของลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดการสวมรอยเป็นบุคคลอื่น และลดช่องโหว่ในการทำผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน เช่น ธนาคาร, ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล, การจัดการการลงทุน, บริการโอนเงิน ก็จะตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เปิดใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เมื่อไหร่
หลังจากที่รัฐบาลมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่อง เงินดิจิทัล10,000 บาท ก็มีทั้งเสียงที่เห็นด้วย และเสียงที่ไม่เห็นด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายในเดือนตุลาคม 2566 แต่ที่ยืนยันได้อย่างแน่นอนแล้วก็คือ เงินดิจิทัล10,000 บาท จะถูกโอนเข้าไปในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2567 โดยไม่ต้องลงทะเบียน ส่วนร้านค้าที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566
ช่องทางสำหรับการรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ผ่าน Application ใหม่ที่จะถูกออกแบบมาให้ใช้
- ผ่านบัตรประชาชน ซึ่งสามารถสแกนซื้อสินค้าได้เลย
สินค้าอะไรบ้างที่สามารถซื้อได้
เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันได้ เช่น อาหาร, น้ำดื่ม, ของกิน, ของใช้ ที่มีความจำเป็น แต่ถ้านำไปใช้ซื้อสารเสพติด, ซื้อของมึนเมา, นำไปเล่นการพนัน หรือนำไปใช้หนี้จะไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ก็ยังไม่สามารถนำเงินไปแลกเปลี่ยน หรือกดออกมาเป็นเงินสดได้ ซึ่งประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์นี้จะต้องใช้จ่ายภายใน 6 เดือน โดยจะใช้ในครั้งเดียว หรือจะทยอยใช้ก็ได้ ส่วนรัศมีในการใช้จะอยู่ที่ 4 กิโลเมตร เนื่องจากนโยบายนี้ต้องการกระจายรายได้ในชุมชน แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าหากที่อยู่ตามบัตรประชาชน ไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบันสามารถใช้ได้หรือไม่ ซึ่งปัญหานี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้
สรุป
สำหรับนโยบาย เงินดิจิทัล10,000 บาท ต้องบอกว่าแม้จะมีปัญหาจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ที่กังวลถึงเรื่องเศรษฐกิจในประเทศไทย เพราะกลัวว่าหากรัฐบาลนำเงินมาแจกในจำนวนที่มาก ภาระก็อาจมาตกที่ประชาชน เช่น การขึ้นภาษีที่สูงขึ้น แต่สำหรับผู้มีรายได้น้อยมันก็เป็นความหวังอีกทางหนึ่ง เพราะการที่ได้เงินจำนวนนี้มาก็อาจช่วยต่อชีวิตไปได้อีกหน่อย หรือถ้าเป็นนักศึกษาก็จะไม่ต้องขอเงินจากทางบ้าน แล้วเก็บเอาไว้เป็นค่าเดินทางไปเรียน ส่วนบางคนที่ต้องการ เงินดิจิทัล10,000 บาท ก็อาจเกิดความกังวลในเรื่องของขั้นตอนการใช้ เช่น ไม่เข้าใจในเรื่อง Application ที่อาจต้องเรียนรู้ใหม่
ทั้งนี้นโยบายการแจก เงินดิจิทัล10,000 บาท ก็ยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างเต็มที่ มีเพียงแค่บางส่วนที่สามารถยืนยันได้ เช่น วันในการโอนเงิน ส่วนเรื่องอื่น ๆ อย่างการขยายพื้นที่ หรือการขยายเวลาในการใช้ก็ยังอยู่ในที่ประชุม ซึ่งทางรัฐบาลก็น่าจะกำลังหาทางออกที่เหมาะสมอยู่ ดังนั้น ถ้าใครที่ไม่อยากตกข่าว หรือพลาดเรื่องราวการเมือง ก็แนะนำให้ติดตามข่าวไว้ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงจะได้รู้
Website : สาระน่ารู้
อ้างอิง : วิกิพีเดีย